เป็นอีก 1 รุ่นของโซนี่ถูกที่ซอยรุ่นออกมาอย่างมากมายในปีนี้ โดยสมาร์ทโฟนที่จะพูดถึงในวันนี้ เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เอี่ยมอ่อง ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติกับการใช้งานทุกสภาพอากาศ ทุกสภาพแวดล้อม และทุกสภาพภูมิประเทศ กับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ Sony Xperia Go
การออกแบบและสเปกเครื่อง
Xperia Go ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ได้ใช้งานในทุกๆ สภาพแวดล้อม กันน้ำได้ รวมไปถึงเป็นเครื่องที่มาพร้อมกับความคงทนถาวร มาตามมาตรฐาน IP6/7 ข้อได้เปรียบของ Xperia Go เทียบกับสมาร์ทโฟนประเภทกันน้ำได้ กันฝุ่นได้ กันการตกหล่นของเครื่องได้ ตรงที่การออกแบบตัวเครื่องของ Xperia Go ค่อนข้างดูดีกว่ารุ่นอื่นๆ อีกทั้งสเปกของเครื่องก็เรียกว่าแรงพอตัว แถมยังจะได้รับการอัปเกรดเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 Ice Cream Sandwich ด้วย
ด้านหน้า - ขนาดหน้าจอเครื่อง 3.5 นิ้ว ความละเอียด 320 x 480 พิกเซล (จุดนี้จากที่ใช้งานรู้สึกว่าหน้าจอจะไม่ละเอียดเลย) มาพร้อมคุณสมบัติ Sony Mobile BRAVIA Engine ด้านล่างมีปุ่มสัมผัสแบบ Capacitive ได้แก่ปุ่ม Back, Home ช่องไมโครโฟน และ Menu ไม่มีกล้องหน้า
ด้านซ้าย - ช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน ที่ผู้ใช้จะต้องแงะออกมา ส่วนนี้ทำมาเพื่อกันน้ำนั่นเอง
ด้านขวา - ปุ่มเพิ่มลด/เสียง และไมโครยูเอสบี แน่นอนว่าส่วนนี้ทำออกมาแน่นหนาเช่นกัน
ด้านบน - ปุ่ม Power On/Off
ด้านล่าง - ช่องสำหรับแกะฝาหลังออกมา ซึ่งแกะได้ค่อนข้างง่าย และถ้าออกไปลองแช่น้ำดูจะพบว่า น้ำจะเข้าไปง่ายมาก แต่ด้านหลังตัวเครื่องจะมีการซีลกันอีกชั้นหนึ่ง
ด้านหลัง - กล้อง 5 ล้านพิกเซล (หลังจากทดสอบรู้สึกว่า กล้องจะไม่ค่อยละเอียดสักเท่าไหร่) มีแฟลช รวมถึงยังมีระบบตัดเสียงรอบข้าง ส่วนด้านล่างเป็นโลโก้ของ Sony และ ลำโพง
และหากแกะฝาหลังออกมา จะมีช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ด และถาดใส่ซิม
สำหรับสเปกเครื่องของ Xperia Go จะมาพร้อมกับชิปเซ็ท NovaThor U8500 ดูอัล-คอร์ 1GHz (Cortex-A9) หน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ความละเอียด 320x480 พิกเซล ภายใน Sony Mobile BRAVIA Engine และระบบกันน้ำกันฝุ่น หน่วยความจำภายใน 8GB หน่วยความจำสำรอง 512MB กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ไม่มีกล้องหน้า ระบบปฏิบัติการหลักแอนดรอยด์ 2.3 พร้อมอัปเกรดเป็นแอนดรอยด์ 4.0 Ice Cream Sandwich แบตเตอรี่ 1305 mAh มีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว สีดำ และสีเหลือง แต่ในไทยจะขายแค่สีขาว และดำ
ฟีเจอร์เด่นประจำเครื่อง
เป็นมือถือกันน้ำที่เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ตรงที่ว่าสามารถใช้งานได้ขณะที่ตัวเครื่องกำลังอยู่ในน้ำ และถ้าดึงขึ้นมาจากน้ำ ก็ไม่จำเป็นต้องเช็ดหน้าจอ ก็สามารถสัมผัสหน้าจอได้เลย
Homescreen - จะมีอยู่ 5 หน้า ซึ่งผู้ใช้สามารถเปลี่ยนธีมของเครื่องได้ด้วยการแตะหน้าจอค้าง แล้วเลือกเปลี่ยนธีม
AppDrawer - ก็จะเหมือนกับสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไปของ Sony เมนูด้านล่างซ้ายจะเป็นการจัดเรียงแอป ส่วนด้านขวาจะเป็นเมนูลัดในการ uninstall แอปฯ ส่วนการลากแอปฯ มาไว้หน้าจอก็เพียงแค่กดค้าง แล้วลากไปยัง 1 ใน 5 หน้าที่ต้องการ
ส่วนการปรับแต่ง Widgets, สร้าง Folder และเปลี่ยนพื้นหลังก็เพียงแค่แตะหน้าจอค้างเอาไว้เท่านั้น
และถ้าหากจีบนิ้วเข้าหากัน ก็จะเป็นการแสดงผลหน้าจอ Homescreen แบบภาพรวม
Web Browser - การทำงานของตัวเว็บทำได้ค่อนข้างรวดเร็ว รองรับการซูมเข้า-ออก
กล้อง - จะมีให้เลือกปรับโหมดของภาพได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพแบบปกติ ถ่ายแบบ Panorama ถัดมาจะมี Scene หรือ ฉาก ให้เลือกเพื่อสำหรับการถ่ายภาพในสภาพที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายแบบ Portrait, Landscape, Night Mode เป็นต้น นอกเหนือจากนั้นมีให้ปรับค่า EV และเปิด/ปิด แฟลช
และถ้ากดปุ่มเมนูก็จะมีให้ปรับอีกตั้งแต่ความละเอียดภาพ, ตั้งเวลาถ่ายภาพ, ตรวจสอบการยิ้ม, โฟกัส, ISO, แสงขาว, การวัดแสง เป็นต้น ส่วนวิดีโอก็แค่สไลด์สลับจากรูปกล้องมาเป็นรูปวิดีโอ
Timescape - จะเป็นฟีดที่ทำให้ผู้ใช้ได้เกาะติดความเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ คุณในโลกออนไลน์ ซึ่งรองรับทั้งเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์
จากเครื่องทดสอบจะมีแอปพลิเคชันเสริมการใช้งาน อื่นๆ อีกเช่น miCoach, WalkMate ซึ่งน่าจะถูกใจคอนักกีฬาได้ดีเลยล่ะ
แบตเตอรี่ - จากที่ทดสอบการใช้งานมา พบว่าตัวเครื่องมีแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างอึดเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น วิเคราะห์คร่าวๆ แล้วคงเป็นเพราะว่า ตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอไม่ใหญ่มากนัก ความละเอียดของจอก็ไม่ได้พลังงานมากนัก ที่สำคัญชิปประมวลผลที่เป็น NovaThor มันไม่ได้กินทรัพยากรเครื่องมากนัก
สำหรับผลการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน Benchmark ต่างๆ ได้ดังนี้ เริ่มกันที่ Qaudrant Standard ได้ไป 2478 ทดสอบด้วย NenaMark และ NenaMark ได้ไป 64.0-42.6fps ตามลำดับ ทดสอบด้วย AnTuTu ได้ผลการทดสอบอยู่ที่ 5785 และผลทดสอบด้วย Vellamo ได้คะแนนการทดสอบที่ 995
จุดเด่น
- กันน้ำ กันฝุ่นได้
- ออกแบบได้สวยกว่ามือถือกันน้ำได้รุ่นอื่นๆ ที่มีขายในท้องตลาด
- แบตเตอรี่ค่อนข้างอึด แม้ว่าตัวเครื่องจะเป็นดูอัล-คอร์ก็ตาม
ข้อสังเกต
- Xperia Go จะมี 2 รหัส คือ ST27i สำหรับเครือข่าย 900 และ ST27a สำหรับเครือข่าย 850
- ภาพที่ถ่ายออกมานั้น ถือว่าปานกลาง ไม่โดดเด่นมากนัก ซึ่งผู้ใช้งานอาจจะเสียดายจุดนี้อยู่นิดๆ
ฟันธง Xperia Go คุ้ม/ไม่คุ้ม ?
ก่อนอื่นต้องบอกคุณผู้อ่านก่อนว่า Xperia Go รุ่นนี้ ถูกตั้งมาราคาไม่แพง 9,990 บาท ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการใช้งานสเปกเครื่องระดับกลาง แต่การใช้งานคุ้มค่าคุ้มราคา (เกินราคาอีกต่างหาก) แต่ถ้าผู้ใช้ต้องการที่จะใช้งานตัวเครื่องที่มีสเปกแรงกว่านี้ แต่ยังมาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นอยู่ ควรจะรอใช้งาน Xperia Acro S
ดังนั้นถ้าผู้ใช้รู้ความต้องการของตัวเองแล้วว่า ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีสเปกกลางๆ (เป็นดูอัล-คอร์) แบตอึดในระดับหนึ่ง กล้องคุณภาพพอใช้ได้ อัปเกรดโอเอสใหม่ได้แล้วที่สำคัญได้ตั้งธงว่าต้องการมือถือไม่เกินหมื่น Xperia Go ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่คุณกำลังมองหาเลยทีเดียว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยเวปไซต์ผู้จัดการ
Sign up here with your email