รีวิว สเปค Samsung Galaxy S3 Mini

เรียกได้ว่า ในปีนี้ Samsung เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ออกมาตีตลาดกันหลายรุ่นเลยทีเดียว แต่เมื่อพูดถึงสมาร์ทโฟนระดับ High-end จาก Samsung นั้น เรียกได้ว่า ทั้ง Samsung Galaxy S III และ Samsung Galaxy Note II ถือว่า ประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดสมาร์ทโฟนครับ เพราะตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างมากมายเลยทีเดียว



และล่าสุดนั้น Samsung ได้เปิดตัว Samsung I8190 Galaxy S III Mini (S3 mini) สมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นล่าสุดเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกได้ว่า สร้างความสนใจในวงกว้างเป็นอย่างมากครับ เนื่องจาก Samsung Galaxy S III Mini นั้น เป็นสมาร์ทโฟนที่มีการออกแบบคล้ายกับ Samsung Galaxy S III แต่รูปร่างเล็กกว่า เหมาะสำหรับท่านที่อยากได้สมาร์ทโฟนสไตล์ Galaxy S III แต่จับถนัดมือ และพอดีอุ้งมือนั่นเองครับ ก่อนที่เราจะมาพบกับ รีวิว Samsung Galaxy S III Mini (Galaxy S3 mini review) มาดูสเปคของ Samsung Galaxy S III mini กันก่อนครับ

สเปค Samsung Galaxy S III Mini

- หน้าจอขนาด 4 นิ้ว แบบ Super AMOLED capacitive touchscreen 16 ล้านสี
- ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล
- ซีพียูแบบ Dual-core processor ความเร็ว 1GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ Mali-400MP GPU
- RAM ขนาด 1GB

- กล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล + Auto-focus + LED Flash + ระบบตรวจจับใบหน้าและรอยยิ้ม
- บันทึกวิดีโอสูงสุดที่ขนาด 720p

- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi b/g/n, Wi-Fi hotspot, Wi-Fi Direct, DLNA, Bluetooth 4.0, microUSB port, GPS (A-GPS และ GLONASS), หูฟังขนาด 3.5 มม., วิทยุ FM และ NFC
- ขนาดตัวเครื่อง 121.55 x 63 x 9.85 มม.
- น้ำหนัก 111.5 กรัม
- ระบบปฏิบัติการ Android 4.1 Jelly Bean
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 8GB และ 16GB

Samsung Galaxy S III mini : การออกแบบ



ดูเหมือนว่า Samsung Galaxy S III จะเป็นสมาร์ทโฟนต้นแบบในด้านการออกแบบเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจาก Samsung Galaxy Note II ที่จะมีดีไซน์คล้าย Samsung Galaxy S III แล้ว Samsung Galaxy S III mini จริงๆ แล้วก็คือ Samsung Galaxy S III ย่อส่วนนั่นเองครับ แต่ไม่เพียงจะย่อแค่ขนาด สเปคของ Samsung Galaxy S III mini เองก็แตกต่างไปจาก Samsung Galaxy S III มากพอสมควรเช่นกัน มาดูส่วนประกอบของ Samsung Galaxy S III mini กันครับ



จอแสดงผลด้านบน ประกอบด้วย หูฟังสำหรับสนทนา, กล้องด้านหน้า ความละเอียดระดับ VGA, Proximity Sensor เซ็นเซอร์ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา น่าเสียดายที่ Samsung Galaxy S III mini ไม่มี Ambient Light Sensor เพื่อปรับความสว่างของหน้าจออัตโนมัติ

สำหรับจอแสดงผลขนาด 4 นิ้วที่ใช้บน Samsung Galaxy S III mini นั้น เป็นแบบเดียวกับที่ใช้บน Samsung Galaxy S และ Samsung Galaxy S Advance ครับ ฉะนั้น คุณภาพของภาพที่ปรากฏนั้น จะมีลักษณะเดียวกัน



ด้านล่างของจอแสดงผล ประกอบด้วยปุ่มควบคุมการทำงาน 3 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มเมนู, ปุ่ม Home และปุ่ม Back



ด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นปุ่มปรับระดับเสียง



ด้านขวาของตัวเครื่อง เป็นปุ่มเปิด-ปิด-ล็อคเครื่อง



ด้านบนของตัวเครื่อง เป็นช่องสำหรับหูฟัง ขนาด 3.5 มม. ไม่มีไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัด



ด้านล่างตัวเครื่อง เป็น microUSB port สำหรับชาร์ตแบตเตอรี่ และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ส่วนด้านซ้ายเป็นไมโครโฟนสำหรับสนทนาครับ



เมื่อพลิกด้านหลัง จะพบกับกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และถาดลำโพงทางด้านซ้ายมือ



เมื่อแกะฝาหลัง จะพบกับแบตเตอรี่ขนาด 1500 mAh ช่องใส่ microSD card และช่องใส่ซิมการ์ด ซึ่งซิมการ์ดที่ใช้เป็นขนาดปกติครับ



ด้วยขนาดที่เล็กกว่า Samsung Galaxy S III ทำให้ Samsung Galaxy S III mini จับได้ถนัดมือมากกว่า และนี่ก็คือข้อดีของรุ่นนี้ครับ

Samsung Galaxy S III mini : อินเทอร์เฟส

สำหรับอินเทอร์เฟสที่ใช้บน Samsung Galaxy S III mini นั้นก็คือ TouchWiz Nature UX UI นั่นเองครับ ส่วนระบบปฏิบัติการที่ใช้ก็คือ ระบบปฏิบัติการ Android 4.1 Jelly Bean



หน้า Lockscreen บน Samsung Galaxy S III mini ปลดล็อคได้โดยการ ลากไปที่จุดใดจุดหนึ่งบนหน้าจอ โดยเอฟเฟกซ์เป็นแบบ water-drop แบบเดียวกับ Samsung Galaxy Note II นั่นเอง นอกจากนี้ Samsung ยังได้ออกแบบให้หน้า Lockscreen สามารถสร้าง shortcut ได้สูงสุด 4 อัน สำหรับเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นที่จำเป็น โดยไม่จำเป็นต้องปลดล็อคก่อนนั่นเองครับ



ในส่วนของหน้า Homescreen นั้น จะมีลักษณะเหมือนกับสมาร์ทโฟน Samsung รุ่นอื่นๆ นั่นเอง ซึ่งถ้าหากท่านใดที่เคยใช้งานโทรศัพท์ Samsung มาก่อน คงจะใช้งานได้ไม่ยากครับ โดย dock ด้านล่างนั้น ประกอบด้วยแอพพลิเคชั่นทั้งหมด 5 แอพพลิเคชั่น ซึ่งได้แก่ Phone, Contact, Messaging, Internet และ หน้าแอพพลิเคชั่นรวม นอกจากนี้ หน้า Homescreen ยังเพิ่ม Widgets และแอพพลิเคชั่นที่จำเป็นในการใช้งาน ได้สูงสุดถึง 7 หน้าครับ



ในส่วนของ Notification area ประกอบด้วยการตั้งค่า toggle มากมายครับ ทั้ง Wi-Fi, GPS, ตั้งเป็นระบบสั่น (Vibrate), Screen rotation, โหมดประหยัดพลังงาน (Power saving) ซึ่งในหน้านี้ จะแสดง toggle แค่ 5 อันเท่านั้น ถ้าหากเลื่อนไปทางขวา จะพบกับ toggle อีกมากมายครับ ได้แก่ Mobile data, Bluetooth, Driving mode และ Sync



หน้าแอพพลิเคชั่นรวม หรือ app drawer ที่นอกจากจะบรรจุแอพพลิเคชั่นที่มาพร้อมกับเครื่อง และแอพพลิเคชั่นที่ดาวน์โหลดมาจาก Play Store แล้ว ยังมีแท็บ Widgets เพื่อเพิ่ม Widgets ไปยังหน้า Homescreen ได้โดยตรงอีกด้วยครับ ซึ่งเราสามารถดูภาพรวมของแอพพลิเคชั่นทั้งหมดได้ ด้วยการ pinch-to-zoom เพื่อจัดเรียงแอพพลิเคชั่นได้ตามต้องการ แต่ไม่สามารถสร้างหน้าใหม่ได้จากส่วนนี้นะครับ

นอกจากนี้ app drawer ยังให้เลือกใช้งานทั้งหมด 3 โหมดด้วยกัน นั่นก็คือ Customizable grid (สามารถจัดเรียงไอคอนได้ตามใจชอบ), Alphabetical grid (เรียงตามตัวอักษรในรูปแบบของตาราง) และ Alphabetical list (เรียงตามตัวอักษรในรูปแบบลิส) ส่วน Widgets นั้น สามารถรีไซส์ได้



สลับการใช้งานแอพพลิเคชั่นได้ตามต้องการ ด้วย App switcher ซึ่งสามารถปิดแอพพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการใช้งานด้วยการสไลด์ครับ นอกจากนี้ ในหน้า App switcher ยังสามารถเข้าสู่ Task manager ได้โดยตรง จากเมนูด้านล่าง



สำหรับคลังภาพ (Gallery) ของระบบปฏิบัติการ Android 4.1 Jelly Bean บน Samsung Galaxy S III mini ถูกปรับแต่งด้วย TouchWiz อีกทีครับ ซึ่งสามารถเรียงลำดับภาพถ่ายได้จาก ตำแหน่งของภาพถ่าย, เวลาที่ถ่าย, บุคคล หรือกลุ่มได้ นอกจากนี้ ภาพที่ถ่าย ยังสามารถ tag บุคคลในภาพ หรือ crop ภาพได้จากส่วนนี้ครับ

Samsung Galaxy S III mini : ทดสอบกล้องถ่ายรูป

กล้องถ่ายรูปบน Samsung Galaxy S III mini มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งสามารถ่ายภาพได้ความละเอียดสูงสุด 2560 x 1920 พิกเซล ส่วนอินเทอร์เฟสในโหมดกล้องนั้น เหมือนกับ Samsung Galaxy S III ลองมาชมตัวอย่างภาพจากกล้องบน Samsung Galaxy S III Mini กันครับ




นอกจากนี้ Samsung Galaxy S III mini ยังสามารถบันทึกภาพวิดีโอได้สูงสุด 720p ซึ่งอินเทอร์เฟสในการใช้งานนั้น เหมือนกับตอนถ่ายภาพนิ่งครับ เพียงแต่สลับโหมดเท่านั้น ลองมาดูตัวอย่างคลิปวิดีโอกันครับ




Samsung Galaxy S III mini : ทดสอบ Benchmark

Samsung Galaxy S III mini ใช้ชิปเซ็ท NovaThor U8500 ซึ่งเป็นซีพียูแบบ Dual-core Cortex A9 processor ความเร็ว 1GHz ส่วนระบบประมวลผลภาพคือ single-core Mali-400 GPU และหน่วยความจำ RAM อีก 1GB ครับ ลองมาดูค่า Benchmark ที่ได้ เปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ กันครับ



Benchmark Pi ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU



Linpack ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU เช่นเดียวกับ Benchmark Pi



SunSpider ทดสอบ java script



BrowserMark ทดสอบประสิทธิภาพของบราวเซอร์



NenaMark 2 ทดสอบ GPU



AnTuTu ทดสอบความเร็วของ CPU และ GPU



Quadrant ทดสอบความเร็วของ CPU และ GPU

Samsung Galaxy S III mini : ทดสอบเบราเซอร์ Jelly Bean



สำหรับเบราเซอร์มาตรฐานบน Samsung Galaxy S III mini นั้นก็คือ Android browser ครับ (แต่ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดเบราเซอร์อื่นมาใช้งานได้ตามใจชอบจาก Play Store) ซึ่งรองรับ double tap และ pinch-to-zoom รวมไปถึงการใช้ 2 นิ้วเพื่อซูมอีกด้วย อย่างไรก็ดี เบราเซอร์บน Samsung Galaxy S III Mini นั้น ไม่รองรับ Flash Player ครับ

Samsung Galaxy S III mini : บทสรุป

แม้ว่า ชื่อของ Samsung Galaxy S III mini นั้น จะสื่อความหมายถึง Samsung Galaxy S III แต่เมื่อดูสเปคโดยรวมแล้ว กลับมีความคล้าย Samsung Galaxy S Advance มากกว่าครับ ทั้งในเรื่องของหน้าจอที่มีความกว้าง 4 นิ้วเท่ากัน ซีพียูความเร็วเท่ากัน กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลเหมือนกัน จริงๆ ถ้าหากจะเรียก Samsung Galaxy S III mini ว่า เป็นรุ่นอัพเกรดแบบ minor change ของ Samsung Galaxy S Advance ก็คงไม่ผิดนัก เพียงแต่ว่า รูปลักษณ์ของ Samsung Galaxy S III mini นั้น คล้าย Samsung Galaxy S III นั่นเอง

สำหรับราคาของ Samsung Galaxy S III mini นั้น เปิดจำหน่ายในยุโรป อยู่ที่ £298 หรือประมาณ 15,000 บาทครับ ซึ่งถือว่า เป็นราคาที่ค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับ Samsung Galaxy S Advance ที่จำหน่ายในไทยประมาณ 12,900 บาทเท่านั้น แต่อย่าลืมว่า ราคานี้เป็นราคาในประเทศแถบยุโรป ซึ่งมักจะมีราคาสูงกว่าประเทศในแถบเอเชียอยู่แล้ว ส่วน ซัมซุง ประเทศไทย จะนำ Samsung Galaxy S III mini มาจำหน่ายหรือไม่ ต้องติดตามครับ

---------------------------------------
รายละเอียดเพิ่มเติม : gsmarena.com
Previous
Next Post »